สมาพันธ์รังนกนานาชาติ ยืนยัน รังนกถ้ำชุมพร
เกรดพรีเมี่ยม ขอรัฐบาลไทยสนับสนุน เร่งแก้รังนกผิดกฎหมาย
ผลักดันการค้าการส่งออกเสรี
วันนี้( 3 มิ.ย. 2561) คณะสมาพันธ์รังนกนานาชาติ นำโดย นายจงเจี่ยนหมิง
ประธานสมาพันธ์รังนกนานาชาติ นายหลินกั๋วเชา รองประธานสมาพันธ์รังนกนานาชาติ
นายหวังฮุ่ยน่า รองประธานสมาพันธ์รังนกนานาชาติ นายหวังเยี่ยเจียง
รองประธานสมาพันธ์รังนกนานาชาติ นายอนันต์ จองศักดิ์เจริญกุล
รองประธานสมาพันธ์รังนกนานาชาติและประธานสมาคมผู้ประกอบการรังนกแอ่นประเทศไทย
ได้เดินทางตรวจเยี่ยมชมถ้ำรังนก ที่เกาะลังกาจิว อ.เมือง จ.ชุมพร โดยมี
นายชาญวิทย์ ทิพย์มณี ประธานชมรมนกแอ่น จ.ชุมพร นายยอดชาย ศศิธร
ที่ปรึกษาชมรมนกแอ่น จ.ชุมพร ร่วมคณะด้วย
นายจงเจี่ยนหมิง ประธานสมาพันธ์รังนกนานาชาติและประธานสมาคมยา กล่าวว่า
สมาพันธ์รังนกนานาชาติ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมเกาะรังนก
ก็เพราะต้องการมาศึกษาวงจรชีวิตของนก ซึ่งเป็นที่มาของอุตสาหกรรมรังนก ซึ่งก็พบว่า
คุณภาพของรังนกถ้ำ หรือรังนกเกาะ ของจังหวัดชุมพร ถือว่า
เป็นรังนกที่คุณภาพเกรดพรีเมี่ยมเลยทีเดียว สมาพันธ์รังนกนานาชาติ
ในนามผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรังนกด้วยและในฐานะผู้บริโภคด้วย
ได้มีโอกาสมาเยี่ยมถึงเกาะ แล้วดูวงจรชีวิตของนก
ทำให้ยิ่งมีความมั่นใจถึงอนาคตรังนกไทยที่จะกลับมาสดใสมากกว่าเดิมอีกครั้ง
หากมีการจัดการจากหน่วยงานที่เกี่ยวเป็นอย่างดี ทั้งทางด้าน
ส่งเสริมสนับสนุนรังนกเกาะซึ่งถูกต้องตามกฎหมายและมีการเปิดประมูลสัมปทานรังนก
การเอาจริงเอาจัง เกี่ยวกับรังนกที่ผิดกฎหมาย การเปิดเสรีตลาดรังนกส่งออก
การสนับสนุนผู้รับสัมปทานเน้นการอนุรักษ์ควบคู่กับการใช้ประโยชน์ อย่างสมดุล
“ การเข้าเยี่ยมรังนกเกาะ
ของสมาพันธ์รังนกนานาชาติ ทำใหทราบว่า รังนกเกาะ ของไทย มีคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม
เลยที่เดียว แต่ยังสามารถส่งออกได้อย่างเสรี เช่น มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
แต่ประเทศไทยมีจุดแข็ง ด้านการจัดการรังนกเกาะ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย คือ
มีการเปิดประมูลสัมปทานรังนก
ผู้ประการที่รับสัมปทานมีการแปรรูปที่เพิ่มทั้งคุณภาพและปริมาณ ทั่วประเทศไทย
มีรังนกกว่า 100 ตัน ต่อปี แต่ไม่สามารถส่งออกได้อย่างเสรี โดยส่งออกได้เพียง
100-200 กก.ต่อเดือนเท่านั้น เพราะยังมีการผูกขาด ต้องส่งออกได้เพียง 2
บริษัทเท่านั้น คือ
บริษัทสยามรังนกทะเลใต้ และบริษัทสยามอินเตอร์เนชั่นแนลรังนก ซึ่งถือว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญ
อีกทั้งยังพบอีกว่า มีรังนกบ้านเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในประเทศไทยยังมองว่าไม่ถูกต้อง
แต่เริ่มกลายเป็นที่นิยมของตลาดผู้บริโภคเพราะราคาถูกกว่า ในขณะที่รังนกถ้ำ
ในตลาดต่างประเทศมีน้อยและราคายังสูงอยู่
ซึ่งตามสถานการณ์ปัจจุบันสมาพันธ์รังนกนานาชาติ ขอยืนยันว่า ผู้บริโภคชาวจีนยังเชื่อมั่นรังนกไทย
โดยเฉพาะรังนกถ้ำ ของประเทศไทยเช่นเดิม โดยเฉพาะความต้องการของตลาดจีนอยู่ที่ 80 -
100 ตัน ต่อปี และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
อนาคตรังไทยก็จะกลับมาสดใสอย่างแน่นอน ”
นายจงเจี่ยนหมิง กล่าว
ภาพ/ข่าว พงศกร นวนละมัย (นิด ดาวใต้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น