เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 8 ตุลาคม 2561 ที่ห้องทำงานรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดชุมพร นายวิรัน ชูกลาง และ นายสันต์ แซ่ตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ชุมพร เขต อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้พา นายสมโภชน์ จุลรักษ์ อายุ 58 ปี อาชีพรับจ้างลานปาล์ม พร้อมบุตรสาวคือ นางสาวโสภิดา จุลรักษ์ อายุ 25 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 1 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เข้าพบ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรคนใหม่ เพื่อขอความเป็นธรรม โดยระบุว่า นายสมโภชน์ถูกเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติดทำร้ายร่างกาย ขณะเข้าจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดสองคนที่ร้านรับล้างรถ (คาร์แคร์) ข้างลานปาล์มที่นายสมโภชน์ทำงานอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 21 กันยายน 2561 ทั้งที่นายสมโภชน์ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เพียงแค่นำรถเข้าไปล้างในขณะที่มีการจับกุมเท่านั้น อีกทั้งนายสมโภชน์ก็มีอาการป่วย และมีอาการผิดปกติที่หูทั้งสองข้าง จึงไม่ค่อยได้ยินสิ่งที่เจ้าหน้าที่ อส.พูด
“วันเกิดเหตุพ่อเอารถไปจอดในคาร์แคร์แล้วเดินไปเรียกเด็กให้มาล้างรถ ขณะเดินทางกลับไปทำงานต่อที่ลานปาล์ม ก็มีเจ้าหน้าที่ อส.ชุดนอกเครื่องแบบคนหนึ่ง เข้ามาดึงตัวพ่อเข้าไปในบ้านที่อยู่ติดกับคาร์แคร์ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ อส.อีก 3 คน แต่พ่อไม่รู้ว่าทั้งหมดเป็นใครเพราะไม่มีการแสดงตัว จึงพยายามจะออกมา เจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็จับพ่อใส่กุญแจมือ แล้วรุมซ้อมได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและตามลำตัว ก่อนจับพ่อตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบสารเสพติด จึงถอดกุญแจมือแล้วปล่อยพ่อออกจากบ้าน พ่อจึงไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สนธยา ไทยประดิษฐ์ พนักงานสอบสวน สภ.สลุย ให้ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ อส.ในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยมีใบรับรองแพทย์ยืนยันด้วย ต่อมา เจ้าหน้าที่ อส.ขอให้พ่อถอนแจ้งความแลกกับการปล่อยผู้ต้องหาทั้งสองคนที่ถูกจับ แต่พ่อไม่ถอนเพราะผู้ต้องหาทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพ่อ และทราบว่าเจ้าหน้าที่ อส.ก็ไปแจ้งความกล่าวหาพ่อว่าต่อสู้ขัดขืนการจับกุมด้วย” นางสาวโสภิดา กล่าว
ข่าวแจ้งว่า นายสมพรได้เชิญนายวิรัน นายสันต์ นายสมโภชน์ นางสาวโสภิดา และญาติ 4 คน เข้าไปพูดคุยในห้องทำงาน ประมาณ 30 นาที จากนั้นนายสมพรก็แจ้งกับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้คงต้องรับหนังสือร้องเรียนจากนายสมโภชน์และครอบครัวเอาไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้ที่ร้องเรียนและผู้ที่ถูกร้องเรียน
พงศกร นวนละมัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาคชุมพร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น