มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ แถลงข่าว Tobacco burns your lungs “บุหรี่เผาปอด”
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับ องค์การอนามัยโลกประเทศไทย ภาคีเครือข่ายควบคุมยาสูบ โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานแถลงข่าว Tobacco burns your lungs “บุหรี่เผาปอด” ณ ห้อง Grand Hall 2 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต
นายเอกชนะ นวนละมัย นายกสื่อภูมิภาคจังหวัดชุมพร ตัวแทนเครือข่าย รณรงค์การไม่สูบบุหรี่ เข้าร่วมกิจกรรม และรับฟังแนวทางการแก้ไข เรื่อง ข่าว Tobacco burns your lungs “บุหรี่เผาปลอด”ให้เห็นถึงผลกระทบของบุหรี่ ซึ่งส่งผลร้ายต่างๆ ต่อสุขภาพปอดของมนุษย์ ตั้งแต่โรคมะเร็ง ไปจนถึงโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โดยปีนี้องค์การอนามัยโลกได้เสนอมาตรการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างเสริมสุขภาพปอดที่ดีคือ การงด การบริโภคยาสูบ และการได้รับควันบุหรี่มือสอง แต่ความรู้ของประชาชน และสาธารณะ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูบ บุหรี่เกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพปอดของผู้คนอันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่ และการได้รับควันบุหรี่มือสองในบางประเทศยังไม่สูงมากนัก แม้ว่าจะมีหลักฐานที่ชัดเจนถึงอันตรายของยาสูบที่มีต่อสุขภาพปอด ความสำคัญของการควบคุมยาสูบ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพปอดที่ดี ที่ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
นายแพทย์แดเนียล เคอร์เทศส์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า การสูบบุหรี่ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนและคนยากจนเสี่ยงต่อการเสพติดนิโคตินไปตลอดชีวิต การสูบบุหรี่ จะส่งผลทำให้คนเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จากโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจวาย และโร
คปอด เราเรียนรู้ จากประสบการณ์ของหลายๆ ประเทศทั่วโลก ว่าการขึ้นภาษีบุหรี่นั้น เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุด ในการป้องกันและทำให้คนเลิกบุหรี่ องค์การอนามัยโลกขอแนะนำว่าระบบการเก็บภาษีบุหรี่แบบอัตราเดียวนั้น ดีกว่าแบบสองอัตรา ซึ่งอาจจะทำให้นักสูบบุหรี่ที่มีราคาถูกกว่าได้ จากบุหรี่ที่ขึ้นราคา 60 บาท หรือต่ำกว่า คิดอัตราภาษีร้อยละ 20 ตามมูลค่า และบุหรี่ที่ขายอัตราเกินซองละ 60บาท คิดอัตราภาษีร้อยละ 40 ควรจะเป็นอัตราเดียวที่ร้อยละ 40 ของบุหรี่ทุกราคา
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไมสูบบุหรี่ เผย ปอดเป็นอวัยวะที่ได้รับสารพิษจากควันบุหรี่มากที่สุด ทำให้ปอดได้รับอันตรายมากที่สุด ในปี 2560 พบคนไทยเสียชีวิตจากบุหรี่รวม 72,656 คน โดยร้อยละ 49 เสียชีวิตจากโรคปอดที่เกิดจากการสูบบุหรี่ คือมะเร็งปอด 13,727 คน ถุงลมโป่งพอง 10,852คน โรคปอดอักเสบและวัณโรคปอด 10,833 คน รวมเท่ากับ35,412คน ซึ่งหากรวมจำนวนคนไทยที่เสียชีวิตจากการได้รับควันบุหรี่มือสองปีละ 8,278คนที่ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตจากโรคปอดแล้ว จะรวมเป็นคนไทยที่เสียชีวิตจากโรคปอดที่เกิดจากการสูบบุหรี่ปีละกว่า 4 หมื่นคนดังนั้นการเลิกสูบบุหรี่โดยเร็วที่สุดจะลดโอกาสที่จะเกิดโรคเหล่านี้
ด้าน ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากบุหรี่ทีทำให้คนไทยเสียชีวิตปีละหลายหมื่นคนแล้วยังก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจทั้งจากค่ารักษาพยาบาล ปีละ 77,626 ล้านบาท ความสูญเสียจากการที่ต้องขาดรายได้ เนื่องจากการเจ็บป่วยปีละ 11,762 ล้านบาท และควาสูญเสียอันเกิดจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรปีละ 131,073 ล้านบาท ความสูญเสียรวมทั้งหมดปีละ 220,461 ล้านบาทฉะนั้นเราควรหันมาร่ามมือกันรณรงค์ให้สังคมปลอดบุหรี่กันดีกว่า ละ ลด เลิก
ภาพข่าว เอกชนะนวนละมัย ข่าวดาวใต้นิวส์จ.ชุมพร รายงาน
#ธนสร นวนละมัย ข่าวดาวใต้ชุมพร 0989515199
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น