สตูลชาวประมงพื้นบ้านยื่นหนังสือวอนขอภาครัฐผ่อนปรนทำประมงเรือไฟปั่น ชาวประมงพื้นบ้านอ.ท่าแพ อ.ละงู และอ.เมืองร่วม 100 คนนำโดยนายฉูอิบ ปากบารา ตัวแทนชาวประมงอ.ละงู เดินทางมายังศาลากลางจ.สตูลเพื่อยื่นหนังสือขอผ่อนปรนในการทำประมงเรือไฟปั่น เนื่องจากชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการกระทรวงเกษตรที่ห้ามใช้เครื่องปั่นไฟ ในเรือขนาดเล็ก โดยนายพีรพัฒน์ เงินเจริญ ป้องกันจ.สตูลได้ลงมาพบกับชาวประมงหน้าศาลากลางจ.สตูล จากนั้นได้ให้ตัวแทนเข้าประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทินายพิบูลย์ รัชกิจประการส.ส.จ.สตูลเขต 1 นายวรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.จ.สตูลเขต 2 ประมงจ.สตูล หน่วยปราบปรามประมงทะเล เจ้าท่า นายกอบจ.สตูล นายกสมาคมประมงจ.สตูล ฯลฯ โดยมีนายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผวจ.สตูล เป็นประธานในการประชุม
โดยนายฉูอิบ ปากบารา ตัวแทนประมงพื้นบ้านกล่าวว่าเรือขนาดเล็กหากินแบบครอบครัว เรือทำเฉพาะฤดูกาลปีละ4-5 เดือน แล้วแต่สภาพอากาศ ขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่ให้ผ่อนปรนมาตรการนี้เพื่อให้ประมงพื้นบ้านได้ทำมาหากิน ซึ่งเรือประมงพื้นบ้านขนาด17-21 ตัวกง เมื่อถึงฤดูมรสุมก็จะใช้เครื่องปั่นไฟ ใช้ไฟ 2 ดวงออกทำประมงอวนหมึกและอวนปลากะตัก ซึ่งเมื่อชาวประมงใช้เครื่องมือปั่นไฟกลายเป็นเรือพานิชย์ทันที แต่โดยสภาพแล้วเรือขนาดเล็กไม่สามารถออกไปไกลเหมือนเรือพานิชย์ทั่วไปได้เพราะต้องเจอกับคลื่นลมแรง อยากให้เห็นใจเพราะเป็นปากท้องของชาวบ้านเพราะหากจะใช้ไฟจากหม้อแบตเตอรี่ก็ไม่ได้ ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่เองก็บอกว่าจะอะลุ่มอล่วยไม่ได้เพราะประมงพื้นบ้านเองก็มีหลายกลุ่ม เมื่อมีการแจ้งมาเจ้าหน้าที่นิ่งเฉย ละเว้นการปฏิบัติไม่ได้ต้องออกจับกุมเพราะถือว่าผิดกฏหมาย เพราะก่อนถึงฤดูมรสุมนี้ก็มีการร้องเรียนมาแล้วเกี่ยวกับเครื่องมือชนิดนี้ ขณะที่นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผวจ.สตูล กล่าวว่าคณะกรรมการประมงระดับจังหวัดจะมีการนัดประชุมอีกครั้งเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ โดยมาคุยกันในเรื่องของข้อกฏหมายและความเดือดร้อนของชาวประมง โดยจะหาช่องทางที่ชาวประมงก็ไม่เดือดร้อนและเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ขัดต่อกฏหมาย
หลังจากได้ข้อสรุป ประมงพื้นบ้านได้ยื่นหนังสือต่อผวจ.สตูล โดยเนื้อหาขอให้ช่วยเหลือชาวประมงที่จับปลาหมึกโดยใช้เรือปั่นไฟ ที่เดือดร้อนตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ให้ใช้เครื่องปั่นไฟ ซึ่งหากไม่ใช้เครื่องปั่นไฟจะไม่สามารถจับสัตว์น้ำเหล่านี้ได้ และขอให้เร่งแก้ปัญหาเพราะชาวประมงพื้นบ้านจาก 3 อำเภอได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 400-500 ครัวเรือน
สุไหล โพธิ์ดก // ผู้สื่อข่าวจ.สตูล รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น