เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 มีนาคม 2563 ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพร จำกัด นายบรรจง โลกมิตร ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพรฯ และคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ ชุดที่ 67 ร่วมกันแถลงข่าวตอบโต้กรณีที่ นายเกรียงศักดิ์ จังคสุต สมาชิกสหกรณ์พร้อมพวก 7 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพรและคณะกรรมการบริหารในข้อหายักยอกเงินกองทุนช่วยเหลือสมาชิกเมื่อยามเดือดร้อนเกือบ 80 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 และวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 นายเกรียงศักดิ์ พร้อมด้วย นายวรรณะ ทองเทพ นายเรืองชัย จิตรภิรมย์ และนางสาวพรพรรณ์ พรหมสมบัติ ได้ชวนสมาชิกเข้าแจ้งความเพิ่มเติม โดยมีสื่อมวลชนทำข่าวและพาดหัวข่าว “แจ้งความดำเนินคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพรยักยอกเงิน 80 ล้านบาท”
นายบรรจง กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ได้พิจารณากรณีดังกล่าวเป็นวาระเร่งด่วน ก่อนได้ข้อสรุปว่า การกระทำของผู้เข้าแจ้งความเป็นการแจ้งความอันเป็นเท็จและให้ข่าวบิดเบือน สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพรอย่างร้ายแรง จึงมีมติคือ 1.มอบอำนาจให้ประธานกรรมการ ผู้จัดการ ที่ปรึกษากฎหมาย และที่ปรึกษากรรมการ ไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 2.ตั้งคณะกรรมการสืบหาว่า สมาชิกสหกรณ์ที่เข้าแจ้งความและให้ข่าวสื่อมวลชนมีใครบ้าง 3.ตั้งคณะทำงานแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงและทำความเข้าใจกับสมาชิกในวันนี้
“กองทุนดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2548 มีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยให้สมาชิกที่เสียชีวิตและไม่สามารถชำระหนี้ได้ ยึดแนวให้สมาชิกช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดำเนินการมา 10 ปีเศษ มีสมาชิกสมทบเงิน 1% ของยอดเงินกู้เข้ากองทุนก่อนการยกเลิกกองทุนประมาณ 113 ล้าน บาท มีการชำระหนี้ให้สมาชิกที่เสียชีวิต 122 ราย เป็นเงินประมาณ 87 ล้านบาท ส่งผลดีแก่ทายาทสมาชิกของผู้กู้แบบกู้พิเศษ ให้สามารถนำหลักทรัพย์ที่ค้ำประกันเงินกู้ (พ้นจำนอง) และผู้ค้ำประกันแบบกู้สามัญ หลุดพ้นจากภาระค้ำประกัน ไม่ต้องรับสภาพหนี้ โดยได้ขออนุมัติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารทุกครั้งซึ่งมีตัวแทนนายทะเบียนเข้าร่วมประชุมด้วย” นายบรรจง กล่าว
นายบรรจง กล่าวว่า ในปี 2559 นายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดชุมพร มีหนังสือแนะนำว่า กองทุนดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะผิด พ.ร.บ.ประกันชีวิต พ.ศ.2535 คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ชุดที่ 65 จึงมีมติยกเลิกระเบียบกองทุนวันที่ 16 สิงหาคม 2561 แล้วเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2562 ให้คืนเงินตามสัดส่วนแก่สมาชิกที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนที่เหลืออยู่หลังจากที่จ่ายให้สมาชิกที่เสียชีวิต แต่ที่ประชุมใหญ่มีมติให้คงเงินกองทุนที่เหลือประมาณ 36 ล้านบาทเศษไว้ก่อน และให้คณะกรรมการชุดที่ 66 ปรับปรุงระเบียบสหกรณ์ให้สามารถดำเนินการต่อได้ แต่นายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดได้มีคำสั่งให้เพิกถอนมติดังกล่าว และแนะนำให้สหกรณ์ฯ คืนเงินกองทุนแก่สมาชิกเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 สหกรณ์จึงคืนเงินกองทุนที่เหลือแก่สมาชิกตามสัดส่วนที่หักเก็บ 33.3211% เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2562 ประมาณ 37 ล้านบาท โดยประกาศให้สมาชิกทราบแต่ขอยืนยันว่าไม่มีการยักยอกเงินกองทุนแต่อย่างใด
“กรณีดังกล่าวไม่มีผลกระทบกับผลประกอบการหรือรายได้ของสหกรณ์แต่อย่างใด สมาชิกจึงไม่ต้องวิตกกังวล คณะกรรมการชุดที่ 67 มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาและร่วมกันพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพรให้มีความเจริญก้าวหน้าขึ้น ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และมุ่งหวังให้สหกรณ์มั่นคง สมาชิกมั่นใจ และมีความสุขอย่างยั่งยืน ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีสหกรณ์และประธานสหกรณ์ คงเกิดจากปัญหาการเมืองในสหกรณ์ เพราะแกนนำที่ชวนสมาชิกเข้าแจ้งความแพ้การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร” นายบรรจง กล่าว
นายจิรวัฒน์ อุมาบล ที่ปรึกษากฎหมายของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพร กล่าวว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือทายาทของสมาชิกผู้เสียชีวิต 122 คนก่อนยกเลิกกองทุนเป็นไปตามระเบียบสหกรณ์ว่าด้วยกองทุนประกันเงินกู้หรือเงินกู้พิเศษ พ.ศ.2549 ที่มีผลบังคับใช้ในขณะนั้น แต่หลังยุติกองทุน สหกรณ์ก็ไม่สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ทายาทสมาชิกผู้เสียชีวิตหลังยุติกองทุนอีก 13 รายได้เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ทำให้มีเงินกองทุนคงเหลืออยู่ 37 ล้านบาทรวมดอกเบี้ย เดิมเงินกองทุนที่หักจากสมาชิกมีประมาณ 113 ล้านบาท แต่จ่ายให้สมาชิกไป 124 ล้านบาท เพราะมีดอกเบี้ยที่ฝากไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพรเพิ่มขึ้นอีก 11 ล้านบาท
“ส่วนที่ถามว่าสหกรณ์จะรับผิดชอบอย่างไรกับเงินที่จ่ายไปก่อนยุติกองทุน ขอยืนยันว่าเป็นการจ่ายเงินตามระเบียบสหกรณ์ซึ่งไม่ผิดกฎหมาย หลังยุติกองทุน สหกรณ์ได้หารือไปยังนายทะเบียนสหกรณ์เพื่อต้องการจ่ายเงินแก่ครอบครัวสมาชิกที่เสียชีวิตแต่นายทะเบียนระบุว่าไม่สามารถทำได้ หากมีการจ่ายคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ทุกคนต้องรับผิดชอบ จึงจำเป็นต้องคืนเงินที่เหลือแก่สมาชิกที่ถูกหักเงินเข้ากองทุน และที่สงสัยว่าจะคืนเงินให้สมาชิกครบ 100% ได้หรือไม่ ต้องนำเข้าที่ประชุมใหญ่สหกรณ์ หากสมาชิกส่วนใหญ่มีมติว่าต้องคืนเงินให้ครบ 100% ต้องบรรจุเข้าวาระการประชุมของที่ประชุมใหญ่สหกรณ์พิจารณาต่อไป ส่วนกรณีที่จะแจ้งความกลับแกนนำที่ชวนสมาชิกเข้าแจ้งความในข้อหาแจ้งความเท็จหรือไม่ จำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน และต้องเป็นมติของที่ประชุมใหญ่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูชุมพร” นายจิรวัฒน์ กล่าว//////ภาพข่าว นายเอกชนะ นวนละมัย ข่าวภูมิภาคจ.ชุมพร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น