ด่วนมาก....ชาวน่านเดือด ถูกกล่าวหา กรณีไม่รับเผาศพคนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลน่าน คนน่าน.ทุกคนไม่เคยแล้งน้ำใจมีจิตใจเป็นคนมีคุณธรรม
จากการที่นางจิราภรณ์ โพธิบุตร อายุ 51 ปีอยู่บ้านเลขที่7 / 329 หมู่ 8 ตำบลอ้อมใหญ่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม แจ้งว่าน้องชาย เสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 ที่โรงพยาบาลน่าน ได้ติดต่อขอรับศพกลับภูมิลำเนาตนเอง ทั้งที่ทางโรงพยาบาลได้แนะนำเรื่องการเก็บศพ การฌาปนกิจศพโดยมูลนิธิคนไร้ญาติเผาศพฟรี แต่ญาติปฏิเสธรับการช่วยเหลือ ยืนยันจะรับศพไปภูมิลำเนาตนเอง และที่กล่าวอ้างว่าได้ประสานขอไปเผ่าที่สำนักสงฆ์ นาท้อ ตำบลสะเนียน นันแม้แต่ชื่อสำนักสงฆ์นี้ก็ไม่มีในพื้นที่ดังกล่าวอ้างได้สอบถามไปทางอำเภอเมืองน่านฝ่ายปกครองท้องที่แต่ละพื้นที่ก็ไม่ได้รับการติดต่อประสานขอรับการช่วยเหลือแต่แต่อย่างใด จึงเข้าใจว่าญาติน่าจะต้องรีบกลับ โดยมีข้อจำกัดของสถนการณ์มาตรการโรคโควิด-19 และ พรก. ฉุกเฉินนี้ ด้วย แม้แต่ใบมรณะบัตรของคนตายก็ยังไม่ยอมแจ้งที่น่าน (ทางญาติ น่าจะขออนุญาตผ่านด่านคัดกรองโควิด โดยขอเข้าจังหวัดน่าน แบบไปกลับ ไม่ค้างที่น่าน หากจะค้างที่น่าน ต้องปฎิบัติตามมาตราการถูกกักตัว 14 วัน ) จึงต้อง เร่งรีบ รับศพกลับจังหวัดนครปฐม (แม้แต่ใบมรณะ บัตรคนตายยังไม่ไปแจ้งรับ คำแนะนำจากทางโรงพยาบาลน่าน ให้คำแนะนำ ว่า 1/จะเก็บศพไว้ ที่โรงพยาบาลก่อนก็ได้ เมื่อพร้อมค่อยมาดำเนินการ
2/หรือให้มูลนิธิเพื่อผู้ยากไร้และศพไร้ญาติจังหวัดน่าน ช่วยผู้ยากไร้ ช่วยเหลือเผ่าศพฯให้ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทางญาติรับทราบแต่ก็ปฏิเสธรับการช่วยเหลือ ยืนยันขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาตนเอง นครปฐม เพราะได้ติดต่อทางวัดไว้แล้ว ที่นครปฐม ได้รับทราบข้อมูลแล้วแจ้งชัดแล้ว แต่ทางพี่สาวของผู้ตาย จะกล่าวหา คนน่าน ตามข่าวเสนอไปนั้นอย่างไร ทางกลุ่มสังคมออนไลน์ก็วิภาควิจารณ์ ด่าว่ากันไปต่างๆนาๆ แม้แต่พระ ภิกษุ ศรัทธาญาติโยมก็ถูกกันทั่วหน้า ด่ากระทบถึงคนน่าน ดิฉัน แต่แรกก็เห็นใจมากกับการศูนย์เสีย ไม่อยากซ้ำเติม กันในยามภาวะเช่นนี้. แต่เมื่อความจริงข้อมูลปรากฎชัดเช่นนี้แล้ว อดที่จะประณาม ไม่ได้ แต่ถ้าจะมองไปแล้ว ก็ดูว่าเขาจะตกเป็นเครื่องมือ ของข่าวสารหรือไม่ จะสมควรประณาม หรือจะสมควรได้รับความ เห็นใจ การออกข่าวให้ความเห็น ทำให้สังคมเข้าใจผิด วิภาควิจารณ์ ดราม่าหมิ่นประมาท กระทบคนน่าน ในสังคม ออนไลน์ ต่างก็กล่าวประณาม จาบจ้วงวัดพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นสถาบันที่คนน่าน ให้ความศรัทธานับถือ จังหวัดน่านเป็นเมืองพุทธเป็นเมืองวัฒนธรรมเมืองหนึ่งในภาคเหนือ มากระทำให้พระพุทธศาสนามั่วหมองไปด้วย กล่าวหาเหมารวมคนน่าน ให้คนอื่นมองคนน่านว่าเป็นคนไม่ดีในสายตามุมมองของโลกออนไลน์ในการถูกตำนิติติงในกรณีนี้
ในความเห็นส่วนตัวยากประณามว่า เลว มาก ไม่สมควรที่จะเห็นใจ ไม่สมควรที่จะให้อภัยเลย แต่เขาคงรู้เท่าไม่ถึงการ "การให้อภัยกันก็เป็นสิ่งที่ดี" ณ เวลานี้ นางสาว ชารี ชัยชนะ เลขา สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน 18 เมษายน2563 เวลา11.19น(.ผู้ร้องเรียน)
นายยกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่าผู้ตายเป็นศพไร้ญาติ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลน่าน ด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรงพยาบาลน่านแจ้งให้ ชมรมช่วยเหลือผู้ยากไร้และศพไร้ญาติให้การช่วยเหลือ ทางชมรมฯรับจะให้ความช่วยเหลือสามารถเผาที่สุสานลอมเชียงของได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น พี่สาวผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่นครปฐม มีความประสงค์จะนำศพน้องชายไปเผาที่นครปฐม ซึ่งคงทราบดีว่าหลวงพ่อน้ำฝน วัดไผ่ล้อมจังหวัดนครปฐม ท่านเมตตาประกาศทราบโดยทั่วกันว่าทางวัด เผาฟรีและมีเงินช่วยเหลือด้วย จีงขอให้รถมูลนิธิฯมานำศพไปส่งที่นครปฐม ช่วงนี้บังเอิญมีข่าวดังว่าคนเป็นโรคติดเชื้อโควิด-19 บางวัดไม่รับเผาช่วงก่อนหน้านี้ ข่าวจึงติดกระแส ชาวน่าน/วัดไผ่ล้อมและพี่สาวผู้ตายเป็นเหยื่อสื่อพยายามโยงไปให้ติดกระแสสื่อหลัก เต้าแต่งข่าวเพิ่ม ผมและนายอำเภอตรวจสอบแล้วหลายทางไม่ได้มีการขอเผาที่น่านแต่อย่างใด
นายบุญยงค์ สดสะอาด รองนายก อบ.ต.ไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน และผู้สื่อข่าว นสพ.ออนไลน์ ส่วนภูมิภาค และสื่อท้องถิ่น กล่าวว่า จากกรณีกล่าวหาว่าชาวบ้านนาท่อไม่ให้เผาศพตามที่เป็นข่าวนั้น ตนได้โทรศัพท์สอบถามนายวิพัฒน สมยะ กำนันตำบลไชยสถาน กับนายนิรันดิ์ สิทธิมงคล ผู้ใหญ่บ้านนาท่อหมู่ที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ป่าสุสาน บ้านนาท่อหมู่ที่1กับหมู่ที่ 10 ที่ใช้ฌาปนกิจศพร่วมกัน ของสองหมู่บ้านซึ่งกำนันและผู้ใหญ่บ้านต่างก็ยืนยันว่าไม่มีผู้ไดมาติดต่อเผาศพแต่อย่างใดครับ และเรื่องนี้ทำไห้หมู่บ้าน ตำบลไชยสถาน ได้รับความเสียหายว่าเป็นผู้ใจดำ ไม่มีเมตาธรรม ตอนนี้กำลังปรึกษาฝ่ายกฎหมายอยู่ครับว่าจะดำเนินการทางกฏหมาย
ในส่วนใดบ้าง เข่นพรบ.คอมพิวเตอร์เป็นต้น บุญยงค์ สดสอาด อุปนายกสมคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน รายงาน ###ดาวใต้นิวส์ออนไลน์098-9515199
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น