จ. อำนาจเจริญ 27/5/63
ข่าว เจ้าทุกข์บ่อบาดาลแห่แจ้งดำเนินคดีธรรมาภิบาลและนายช่างอบต.
นายคู่ บุญมาศ 087-2557999 ข่าว / ภาพ
เจ้าทุกข์เจาะบ่อน้ำบาดาลแห่แจ้งความดำเนินคดีกับอดีตธรรมาภิบาลและนายช่าง อบต. ส่วนเจ้าตัววิ่งโร่พึ่งดำรงค์ธรรมให้ไกล่เกลี่ยเพื่อไม่ให้เรื่องบานปลาย
ความคืบหน้ากรณีที่นางทิพเพ็ญพักตร์ เฉลิมศรี ครู วิทยฐานชำนาญการพิเศษ ( ซี 8 ) โรงเรียนอำนาจเจริญ อ. เมือง จ. อำนาจเจริญ เข้าร้องทุกข์ต่อนายสุธี ทองแย้ม ผวจ. อำนาจเจริญ และผวจ. ได้มอบหมายให้วัชร กุดกุง หน.สำนักงานจังหวัด ผู้ดูแลศูนย์ดำรงธรรม นำเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ. เมืองอำนาจเจริญ กำชับให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันวางแผนฉ่อโกงประชาชนและให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาหากมีข้าราชการมาเกี่ยวให้ดำเนินการทางวินัยและทางอาญาเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 27 พ.ค. 63. ร.ต.อ.อนันต์ คำเลิศ พนง.(สอบสวน) สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้รับแจ้งจากนางจำปา ประทุมถิ่น ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ(ซี8)โรงเรียนอำนาจเจริญ อ. เมือง จ. อำนาจเจริญและนางยุวดี บุญกัณฑ์ อายุ 49 ปีบ้านเลขที่ 9 ม. 15 ต. สร้างนกทา อ. เมือง จ. อำนาจเจริญ หัวหน้ากลุ่มเกษตรกรผู้ต้องการโครงการติดตั้งระบบบ่อบาดาลสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ของกองทุนพลังงานแสงอาทิตย์( แผงโซล่าเซล) ที่ถูกนายเพชร นางาม อดีตธรรมมาภิบาลภาคเอกชนและนายสุรพงษ์ พุทธิวงค์ นายช่าง อบต.ชำนาญการ อบต.โนนงาม จ อ. ปทุมราชวงศา จ. อำนาจเจริญ หลอกลวงจะให้เจาะบ่อบาดาลบ่อละ 23,000 – 25,000 บาทเอาโครงการติดตั้งระบบบ่อบาดาลสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมาให้ตั้งแต่ปี 2562 แต่จนขณะนี้ยังไม่ได้ทราบถูกหลอกจึงได้เข้ามาแจ้งความเพื่อเอาผิดกับบุคคลทั้ง 2 ในคดีเดียวกันกับนางทิพย์เพ็ญพักตร์
ด้านนายเพชร นางาม อดีตธรรมาภิบาล นายสุรพงษ์ พุทธิวงค์ นายช่าง อบต.ชำนาญงาน พร้อมด้วย พ.อ.(พิเศษ) อนันต์ กินาวงค์ ทนายความ ได้เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดอำนาจเจริญเพื่อ ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม กับนายวัชร กุดกุง หน.สำนักงานจังหวัด ดูแลศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ซึ่งมีคณะกรรมการประกอบไปด้วย ผอ.ศุนย์ดำรงธรรม ,ยุติธรรมจังหวัด, พลังงานจังหวัด ซึ่งนายเพชร แจ้งว่าวัตถุประสงค์ที่เข้ามาร้องทุกข์ในครั้งนี้เพื่อขอร้องให้ศูนย์ไกล่เกลี่ย ทำไมจึงปล่อยให้ครูอ้อยไปแจ้งความจนมีข่าวเผยแพร่ไปทั่วประเทศทำให้ตนเสียหายตกเป็นจำเลยของสังคม ซึ่งที่ตนไปแจ้งข่าวชาวบ้านผู้ต้องการเข้าร่วมโครงการก็เพราะความหวังดีตนเห็นว่าโครงการดังกล่าวมีประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรและ โครงการดังกล่าวเป็นกองทุนของกรมพลังงาน กองทัพภาค 2 กลุ่มที่จะร่วมโครงการได้จะต้องรวมกันกลุ่มละ 7 คนและจะมีบ่อเอง สำหรับเงินกลุ่มของครูอ้อยที่โอนเข้าบัญชีตนมีเพียง 2 รายๆละ 23,000 บาทส่วนที่เหลือครูอ้อยเป็นคนเก็บแต่มาโยนความผิดให้ตนมันไม่ถูกต้อง ส่วนผู้ที่เข้าร่วมโครงการก็ด้วยความสมัครใจซึ่งตนไม่ได้ไปบังคับขู่เข็ญแต่อย่างไร ตนได้รับความเสียหายจากการป้ายสีจากครูอ้อย แต่ถึงอย่างไรตนยังมีน้ำใจกว้างพอยินดีจะประนีประนอม เพื่อไม่ให้เรื่องบานปลาย ควรนำ สำนวนอีสานที่ว่า “ไฟในบ่อให้ออกไฟนอกบ่อให้เข้า”มาใช้ ถ้าหากทางครูอ้อยไม่ยอมก็เป็นสิทธิ์ ของเขาตนก็จำเป็นต้องดำเนินการทางกฏหมายต่อไปนายเพชรกล่าว
นายวัชร กุดกุง กล่าวเพียงสั้นๆว่าศูนย์ดำรงค์ธรรมมีหน้าที่รับเรืองราวร้องทุกข์เท่านั้นหากทั้งสองฝ่ายพร้อมใจกันก็ยินดีไกล่เกลี่ยแต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอมก็ต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย ###ดาวใต้นิวส์ออนไลน์098-9515199
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น