ผู้ปกครองไร้เงินซื้อชุดนักเรียนลูกหลาน ขนหม้อน้ำมนต์ผูกสายสิน ที่กรวดน้ำ พานโบราณ และเตาแก๊ส เข้าโรงรับจำนำขาย หาเงินให้ลูกใส่เปิดเทอม 1 ก.ค.นี้
……………………………………………….........
วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยิ่งใกล้การเปิดเทอมอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ค.63 หลังจากที่ปัญหาโควิด-19 ระบาดจนเข้าสู่สภาวะปกติ แต่พิษเศรษฐกิจโรคโควิด- 19 ยังทิ้งความบอบช้ำแก่ประชาชนชาวสตูล และคนยากจน ในพื้นที่จำเป็นต้องหยิบเอาของเก่าแก่โบราณ ถ้วยชามโลหะทองเหลืองเข้าโรงรับจำนำในตัวเมืองสตูลแล้ว
ซึ่งวันนี้ไปดูบรรยากาศที่สถานนุบาลเทศบาลเมืองสตูล (โรงรับจำนำ ) ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล บรรยากาศประชาชน ต่างพาบุตรหลานเข้าโรงรับจำนำเพื่อนำสิ่งของมีค่า เช่น ทอง สร้อยคอ กำไล และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายๆอย่างมาจำนำเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อไปซื้อชุดนักเรียน รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์การเรียนของใหม่ให้กับลูกหลานก่อนวันเปิดเทอม 1ก.ค. 63นี้
ด้านนายอานัส บารา ผู้จัดการสถานนุบาลเทศบาลเมืองสตูล (โรงรับจำนำ ) บอกว่า เมื่อวานนี้มีครอบครัวใหญ่ที่นำเตาแก๊สปิกนิกจำนำตั้งไว้ เพื่อต้องการเอาเงินไปซื้อชุดนักเรียน ตั้งได้เพียงแค่ 400 บาท ก็ยอมตั้ง เพราะไม่มีเงินจะซื้อเสื้อผ้าชุดใหมให้ลูก และก็มีการนำเอาโลหะทองเหลือง เช่นหม้อน้ำมนต์ที่ผูกสายสิญจ์ดูเก่าแก่น่ากลัว และที่กรวดน้ำที่เป็นโลหะทองเหลือง พานโบราณ ที่ชั่งน้าหนักโบราณเช่นกัน ของที่เป็นโบราณหลายชิ้นยกใส่ลังเข้าโรงรับจำนำมาตั้งเพื่อแลกเงิน ก็มี แม้ว่าจะได้ราคาน้อยเพียง 2,000 บาทก็ยอมตั้งขอให้ได้เงินเอาไปซื้อเสื้อผ้าชุดนักเรียนใหม่ๆให้ลูกหลานใส่
นายอานัส บารา ผู้จัดการสถานนุบาลเทศบาลเมืองสตูล (โรงรับจำนำ ) กล่าวอีกว่า ได้พูดคุยสอบถามคนที่เอาของโบราณมาตั้งบอกว่า ช่วงที่ผ่านมาโควิดกระทบมากการเงินขัดสน จำเป็นต้องเอาสิ่งของโบราณเก่าแก่มาตั้งหาเงินให้ลูกหลาน ก็อยากให้ลูกหลานมีเสื้อผ้าอุปกรณ์การเรียนใหม่ๆกับเขาบ้าง และอีกอย่างของโบราณ เช่นหม้อน้ำมนต์ดูน่ากลัว เราก็ต้องรับเพราะประชาชนเดือดร้อน
สำหรับสถานนุบาลเทศบาลเมืองสตูล (โรงรับจำนำ ) นี้เตรียมเงินกองกลาง 70 ล้านบาทเพื่อใช้รองรับประชาชนที่เข้ามาเอาของมาจำนำ ซึ่งทางผู้บริหารเองตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน ก็เปิดรับสิ่งของอื่นๆที่คิดว่าตั้งได้ราคาก็เชิญนำมาช่วยกัน
…………………………………………………………
สโรชา ยกชม...สตูล///รายงาน ###ดาวใต้นิวส์ออนไลน์098-9515199
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น