“ซินลากู” ถล่มชุมพร สวนทุเรียนวอดเสียหายกว่า 30 ล้าน ผู้ใหญ่บ้านช่วยอุ้มเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น
จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ซินลากู” ทำให้เกิดฝนตกและเกิดลมกรรโชกแรงในช่วง 1 - 2 วันที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดชุมพร ทำให้ต้นทุเรียนหลาย พื้นที่ของอำเภอเมือง ประกอบด้วย ตำบลบ้านนา ตำบลถ้ำสิงห์ และตำบลวิสัยเหนือและขุนกระทิง มีต้นทุนเรียนล้มหลายร้อยต้น และบางแห่งมีลูกทุเรียนหล่นจากต้นนับพันลูกทั้งๆ จะรอการขายในอีกไม่กี่วัน จนทำให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนแทบเป็นลม เพราะรายได้หายไปในชั่วพริบตา เพราะคนรับซื้อให้ราคาเพียง 3 บาทต่อกิโลกรัม
ทำให้ “ผู้ใหญ่ป้อม” นายรักชาติ แคล่วคล่อง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ถ้ำสิงห์ อ.เมือง จ.ชุมพร ขอร้องเพื่อนที่เป็นเจ้าของโรงงานไอติมในจังหวัดระยองช่วยรับซื้อทุกเรียนจาก 3 บาท/กิโลกรัม มาเป็น 5 บาท/กิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือชาวสวนทุเรียนซับน้ำตาชาวสวนทุเรียนในพื้นที่
นายรักชาติ แคล่วคล่อง หรือที่ชาวบ้านเรียกคุ้นหูว่า “ผู้ใหญ่ป้อม” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ถ้ำสิงห์ อ.เมือง จ.ชุมพร เปิดเผยว่า ช่วง 2 วันที่ผ่านมา จังหวัดชุมพรมีลมแรงโดยมีอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “ซินลากู” ทำให้เกิดลมกรรโชกแรง จนทำให้ทุเรียนในสวนชาวบ้านได้รับผลกระทบบางรายถึงกับมีทุเรียนล้มไปหลายต้น และบางแห่งลูกทุเรียนต้านลมไม่ไหวก็ร่วมแทบหมดต้น ทำให้มีลูกบ้านที่เป็นชาวสวนทุเรียน วิ่งร้องมาให้ตนช่วยเหลือ เพราะไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนไปปลดหนี้ เพราะทุเรียนที่กำลังจะได้รับผลเสียก็หายไปหมดแล้ว
ตนจึงได้โทรศัพท์ไปขอคำปรึกษาเพื่อนที่ทำโรงงานทำไอติมที่จังหวัดระยองให้ช่วยรับซื้อทุเรียนดังกล่าว เพราะที่ชุมพรไม่มีใครรับซื้อ หรือหากจะซื้อคนรับซื้อก็รับซื้อได้เพียงกิโลกรัมละ 3 บาทเท่านั้น ตนจึงอ้อนวอนให้เพื่อนช่วยรับซื้อทุเรียนในราคากิโลกรัมละ 5 บาท เพื่อจะได้ช่วยชาวสวนทุเรียนไปในตัวอีกด้วย โดยเมื่อวาน( 2 สค.63)ที่ผ่านมา ตนได้รับซื้อทุเรียนและส่งไปเข้าโรงงานที่ จ.ระยองแล้วประมาณ 15 ตัน และในวันนี้ตนจะรับซื้อทุเรียนที่หล่นจากต้นของชาวสวนทุเรียนอีกประมาณ 100 ตัน เพื่อจัดส่งเข้าโรงงานดังกล่าว
เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนทุเรียนเป็นการเบื้องต้นไปก่อน นอกจากนั้นตนก็ยังต้องสำรวจความเสียหายในพื้นที่เพื่อแจ้งเป็นข้อมูลไปให้กับทางอำเภอเมืองชุมพร เพื่อเสนอต่อจังหวัด และจะได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนทุเรียนในโอกาสต่อไป
จากการที่ตนได้ลงพื้นที่สำรวจพบว่ามีต้นทุเรียนล้มในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 300 ต้น และหากประเมินความเสียหายเบื้องต้นคงมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทอย่างแน่นอน นายรักชาติ แคล่วคล่อง หรือที่ชาวบ้านเรียกคุ้นหูว่า “ผู้ใหญ่ป้อม” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ถ้ำสิงห์ อ.เมือง จ.ชุมพร กล่าวปิดท้าย ส่วนทางด้านต.ขุนกระทิงอ.เมืองจ.ชุมพร ได้รับคำบอกเล่าจากนาย กิติกร จันทร์จุนา อยู่บ้านเลขที่6/8ม.4 ต.ขุนกระทิงอ.เมืองจ.ชุมพร ว่าตนได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้มากพอสมควรแต่ที่เสียดายมากๆคือทุเรียนรุ่นพ่ออายุ44ปีจำนวน3ต้นที่ได้ล้มลงและลูกดกมากๆน้ำหนักลูกละประมาณ4กิโลได้แล้ว แต่โดยภาพรวมตนเสียหายหลายล้านเช่นกัน นายกิติกร กล่าว///
นาย ธนสร นวนละมัย ข่าวภูมิภาค จ.ชุมพร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น