สระแก้ว-ชาวตาพระยาร้องสื่อขอความเป็นธรรมถูกกล่าวหาว่าทำให้เสียทรัพย์ตำรวจรับคดีอาญา
*****เมื่อเวลา 13.30 น.ของวันนี้ นายพิชัยภูษิต เสาวรส อายุ 25 ปี อยู่เลขที่ 163 หมู่ 8 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อสมาคมนักข่าวนักสื่อมวลชนจังหวัดสระแก้ว ว่า กรณีถูกกล่าวหาว่าทำให้เสียทรัพย์เหยียบเป็ดตาย ร.ต.อ.สุพโชคติ์ ปุราชะทำมัง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้วเจ้าของคดี ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ลงวันที่ 16 ก.ค.2563 ผู้ต้องหาอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พิจารณาความอาญา พุทธศักราช 2477 มาตรา 52 ให้มาพบ ในวันที่ 20 ก.ค.2563 เวลา 15.00 น.และหมายเรียกผู้ต้องหาครั้ง 2 ลงวันที่ 22 ก.ค.2563 ให้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านทัพไทยในวันที่ 31 ก.ค.2563 แต่หมายเรียกทั้งหมดไปส่งพร้อมกันในวันที่ 23 ก.ค.2563 เวลา 13.00 น.โดยมีนางวันณา เสาวรส อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 หมู่ 8 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปส่งหมายเรียกนางวันณาอยู่บ้านคนเดียวลูกชายไปทำงาน เนื่องจากนางวันณา แขนและขาซีกขวาอ่อนแรงเคลื่อนไหวไม่ได้สาเหตุป่วยติดเชื้อในกระแสร์เลือดมีผลกระทบทางจิตใจพ่อได้เสียชีวิตและสามีก็เสียชีวิตเหลือที่ผึ้งหนึ่งเดียวคือลูกชายนายพิชัยภูษิต เสาวรส อายุ 25 ปีที่ถูกกล่าวหาว่าขับรถไปเหยียบเป็ดเขาตายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปส่งหมายเรียกไปข่มขู่ให้เช็นชื่อนางวันณาบอกเขียนหนังสือไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ส่งหมายเรียกข่มขู่ว่าถ้าไม่เช็นชื่อรับหมายเรียกลูกจะต้องถูกจับติดคุกเสียอนาคตนางวันณาตกใจเสียใจได้แต่ร้องไห้กลัวลูกติดคุกเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งหมายเรียกจึงได้ดึงแขนข้างพิการเอาปากกาขีดหมุนที่นิ้วโป้เพื่อจะประทับหมายเรียกนางวันณาร้องให้เสียใจจนถึงตอนเย็นในช่วงลูกชายกลับบ้านมาเห็นแม่ร้องให้จนเบอร์ถามอะไรไม่รู้เรื่องจนลูกปอบใจหลายชั่วโมงถึงเรื่องว่าตำรวจมาส่งหมายเรียกดังกล่าว
*****ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 163 หมู่ 8 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้วได้พบกับนางวันณา เสาวรสและนายพิชัยภูษิต เสาวรส อายุ 25 ปี กับเพื่อนบ้านมาให้กำลังใจและสาเหตุที่ถูกออกหมายเรียก เนื่องจากญาติมีข้อพิพาทเรื่องที่ดินที่บ้านแสง์ หมู่ 7 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ในสมัยมีการสู้รบของเขมร 2 ฝ่าย มีสัญญาชื้อขายถูกต้อง ต่อมามีคนไปบุกรุกเข้าปลูกมันญาติของตนก็ไปปักหลักเขตที่ดินคู่กรณีของญาติก็ไม่แจ้งความว่าบุกรุกที่ดินทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่ดินตกลงกันได้ให้ทางญาติของตนไปถอนเสาหลักเขตออกและคู่กรณีญาติก็ไปถอนแจ้งความต้นพาญาติที่ สภ.บ้านทัพไทย อยู่ๆก็ถูกกล่าวหาว่าทำลายทรัพย์ดังกล่าว
*****เมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 31 ก.ค.2563 นายพิชัยภูษิต เสาวรส อายุ 25 ปี พร้อมญาติไปพบ ร.ต.อ.สุพโชคติ์ ปุราชะทำมัง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ผู้กล่าวหาเหตุเกิดในพื้นที่ สภ.บ้านทัพไทย และผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในพื้นที่ สภ.ตาพระยา การส่งหมายเรียกไม่เกี่ยวกับ สภ.บ้านทัพไทยแต่มันเกี่ยวกับ สภ.ตาพระยา ถ้าไม่ได้รับความเป็นในการส่งหมายเรียกก็ว่ากันไป ส่วนผู้ถูกกล่าวหามาพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านทัพไทย เพื่อมาปฏิเสธกล่าวหาทำลายทรัพย์ขอเข้าสู่ขบวนการศาลยุติธรรมดังกล่าว
******ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ได้รับเอกสารการขอความเป็นธรรมจากผู้มาร้องว่าขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติเท่าเทียมกัน เพื่อต้องการเสนอแนวคิดให้มีการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมให้แก่ประชาชนที่ต้องตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เป็นผู้กระทำผิด นำมาซึ่งการถูกดำเนินคดีและลงโทษโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม มิใช่เพื่อเป็นการตำหนิหรือกล่าวโทษผู้ใด เพียงแต่มุ่งหวังให้เกิดการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับประชาชนที่แท้จริงเท่านั้น แม้ว่าลักษณะปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวจะมีการศึกษาของผู้รู้มาแล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ปัญหาเหล่านี้ก็ยังดำรงอยู่เสมือนหนึ่งว่า ปัญหาที่ถูกนำเสนอโดยผู้รู้ดังกล่าว ไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควรจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ปล่อยให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรมต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว
ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้มีอำนาจทุกฝ่าย ในการที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อหยิบยื่นความเป็นธรรมให้กับประชาชนอย่างเท่าเทียม บทบาทภาระหน้าที่ของบุคลากรผู้รักษากฎหมายในชั้นต้นคือตำรวจในกระบวนการให้ความเป็นธรรมมีทั้งอำนาจและหน้าที่ในการขับเคลื่อนกระบวนการให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนทุกฝ่ายที่เข้ามาสู่กระบวนการได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าประชาชนที่เข้ามาสู่กระบวนการเหล่านั้นจะเข้ามาในฐานะเป็น ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหา โจทก์ หรือจำเลยก็ตาม การขับเคลื่อนกระบวนการเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมากระบวนการยุติธรรมนอกจากต้องอาศัยความรู้ความสามารถของบุคลากร ต้องมีจิตสำนึกความรับผิดชอบในการที่ตนเองต้องมีหน้าที่ และต้องมีจิตสำนึกในการใช้อำนาจด้วย เพราะหากบุคลากรในกระบวนการเหล่านี้ขาดจิตสำนึกแล้ว ก็จะส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่เข้ามาสู่กระบวนการ ซึ่งในที่สุดแล้วก็อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการเหล่านี้ได้ในที่สุด ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่ผ่านมา พบว่า ปัญหาที่ประชาชนเข้ามาร้องเรียนที่ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น ส่วนใหญ่เป็นความเดือดร้อนที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่อันเป็นบุคลากรภาครัฐที่มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบในการขับเคลื่อนกระบวนการต่างๆไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับประชาชน อาจเกิดจากไม่รอบคอบในการปฏิบัติและใช้ดุลยพินิจใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการในการปฏิบัติแล้ว น่าเชื่อได้ว่า ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการร้องเรียน อาจได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม นอกจากประชาชนจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบุคลาของรัฐดังกล่าวแล้ว เหตุที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมอาจเกิดจากการกระทำที่ไม่รับผิดชอบต่อสิทธิของประชาชน ส่วนประชาชนเองก็ขาดความรู้ความเข้าใจในการรักษาสิทธิของตนเอง ซึ่งข้อบกพร่องเหล่านี้ควรอย่างยิ่งที่จะต้องทำการแก้ไขปรับปรุง เพื่อมิให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนที่จะเกิดกับประชาชนต่อไป
***ภาพ/วีระยุทธ สารการ /ข่าว สมศักดิ์ สารการ /บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน
###ดาวใต้นิวส์ออนไลน์098-9515199
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น