จัดกิจกรรมปลูกหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙

                           ชุมพร - จัดกิจกรรมปลูกหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙

       วันศุกร์ที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๘.๓๐ น.นายชัยสิทธิ์  พานิชพงศ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรเป็นประธารในพิธีเปิดโครงการชุมพรจิตอาสา กิจกรรม ปลูกหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙ และร่วมปลูกปลูกหญ้าแฝก  ณ บริเวณคลองวัดนาย และห้วยตีนจับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง    วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร โดยมีหัวหน้าส่วนราชการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บุคลากร นักศึกษา และผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน๑,000 คน

        รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริวัฒน์  โพธิเวชกุล  รองอธิการบดี วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เผย เพื่อเป็นการตอบสนองตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่๙ รวมถึงการรณรงค์ส่งเสริมและขยายผลการปลูกหญ้าแฝก เพื่อเป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำ และนำหญ้าแฝกไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม  กว้างขวางและต่อเนื่อง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพรร่วมกับสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดชุมพร จึงจัดโครงการชุมพรจิตอาสา กิจกรรม ปลูกหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยมุ่งเน้นให้นักศึกษาทุกสาขาวิชา ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีสุดท้ายของการเรียนในระดับปริญญาตรี และนักศึกษาทุกชั้นปี ของ สถาบันฯ วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร ร่วมกับผู้บริหารองค์กร ผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมโครงการชุมพรจิตอาสา กิจกรรม ปลูกหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙ ขึ้นในวันนี้ ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำคลองวัดนายและห้วยตีนจับ ซึ่งอ่างเก็บน้ำคลองวัดนายเป็นแหล่งน้ำที่การประปาอำเภอปะทิวใช้ผลิตน้ำประปาเพื่อให้บริการประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอปะทิว

         

     การดำเนินโครงการชุมพรจิตอาสา กิจกรรม ปลูกหญ้าแฝกตาม  แนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในครั้งนี้  เป็นการดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างจิตสำนึกในการช่วยเหลือสังคม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตในการทำงาน สร้างความผูกพันกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพรโดยเฉพาะอำเภอปะทิวได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์แหล่งน้ำที่ตนเองได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระองค์ท่านทรงมีสายพระเนตรในการอนุรักษ์ดินและน้ำ  ป้องกันการชะล้างพังทลายของดินซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศ มีผลต่อความเสื่อมโทรมของทรัพยากรดิน ทรงตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการป้องกันและแก้ไขปัญหา จึงพระราชทานพระราชดำริให้หน่วยงานต่างๆ ทำการศึกษา ทดลอง และดำเนินการปลูกหญ้าแฝกเป็นครั้งแรก  เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๓๔ เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน และปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น เนื่องจากหญ้าแฝกเป็นพืชที่มีรากยาว แผ่กระจายลงไปในดินตรงๆ เป็นแผง และง่ายต่อการรักษา

“ภจว.ชุมพร” จัดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชนชุมพร “พัฒนาสื่อสร้างสรรค์จังหวัดชุมพร” ประจำปี 2561

เวลา 9.00 น.(วันที่ 30 มี.ค.61) ณ โรงแรมมรกต อ.เมือง จ.ชุมพร พลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เป็นประธานเปิดงานสัมมนาโครงการสัมมนาเพิ่มประสิทธิภาพการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชนจังหวัดชุมพร ประจำปี 2561 “พัฒนาสื่อสร้างสรรค์จังหวัดชุมพร”ในวันนี้ โดยมี พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวรายงาน ซึ่งการจัดงานเสวนาในครั้งนี้มีประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร,สื่อมวลชนทุกเครือข่ายในจ.ชุมพร,ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชุมพร,กำลังพลหน่วยมณฑลทหารบกที่ 44 ,ตำรวจชุดปฏิบัติการชุมชนมวลชนสัมพันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 90 นาย

พลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร กล่าวว่า แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชน ซึ่งปัจจุบันนับว่ามีอิทธิพลต่อการรับรู้ข่าวสารเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์ เป็นช่องทางการรับรู้ที่รวดเร็วมาก หากถูกบิดเบือน เลื่อนลอย ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง อาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย และอาจก่อให้เกิดความแตกแยกของคนในสังคมได้

            การสัมมนา“พัฒนาสื่อสร้างสรรค์จังหวัดชุมพร” รัฐบาลได้มีนโยบาย มุ่งเน้นให้เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ในการเสนอข่าวสาร ให้แก่ประชาชน ให้เข้าใจการบริหารราชการทุกระดับ เพื่อมุ่งสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ

ชุมพร - เร่งล่านักดำน้ำลอบยิงปลาในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร

ชุมพร - เร่งล่านักดำน้ำลอบยิงปลาในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 มีรายงานจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เลขที่ 124 หมู่ที่ 5 ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า ตามที่มีนักท่องเที่ยวที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tep Keerati ได้โพสต์รูป คลิป และข้อความว่า ได้เดินทางมาท่องเที่ยว ดำน้ำดูปะการัง บริเวณหินแพ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 เวลา 14.43 น.ได้พบบุคคลไม่ทราบชื่อ 2 คน กำลังดำน้ำเข้ามาบริเวณใกล้กับเรือที่ตนโดยสารอยู่ และเห็นในมือนักดำน้ำทั้งสองคนมีปืนสำหรับยิงปลา และมีปลาจำนวนหนึ่ง จึงถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอไว้ และเห็นว่าบุคคลทั้งสองคนว่ายน้ำไปยังเรือซึ่งจอดอยู่ สังเกตเห็นชื่อเรือโอ๊ตไดฟ์วิ่ง ทะเบียน 44220616 แล้วน้ำมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กความว่า “ขณะที่เรือผมเข้าจอดที่หินแพ จ.ชุมพร เวลา 14.43 น.ผมพบเจอนักดำน้ำ 2 คน มีท่าทางลักษณะแปลกๆ จึงได้นำเอาโทรศัพท์มาถ่ายไว้ พบว่าเป็นนักดำน้ำที่มาทำการยิงปลา ในพื้นที่อุทยานอย่างไม่ละอาย ปลาที่ได้เป็นปลาหมอขนาดใหญ่ ดูจากหลักฐานน่าจะเกิน 5 ตัวขึ้นไป ผมถ่ายไว้เป็นหลักฐาน ชัดเจนที่สุด เห็นปืน เห็นปลา และที่สำคัญเห็นหน้าผู้ก่อเหตุ (คนไทยด้วย) พบว่ามากับ เรือโอ๊ตไดฟ์วิ่ง ทะเบียน 44220616 เป็นการกระทำที่หน้าเกลียดและไม่มีความสำนึกใดๆ เลย (ที่จับได้เพราะแม่งมันขึ้นเรือผิดมาขึ้นเรือผม) ใครพอจะรู้จักหน่วยงานที่พอจะนำเรื่องนี้ไปจับคนผิดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แชร์ไปเป็นหลักฐานคาหนังคาเขา ยิ่งกว่าคดีเสือดำ อีก อย่าให้คนแบบนี้มีที่ยืนในสังคมครับ ทุเรศมาก”

ต่อมา คณะเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร นำโดย นายศิลป์ชัย พรหมพิชัย พนักงานพิทักษ์ป่า หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรที่ มพ.3 (เกาะมาตรา) ได้ร่วมกันตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าวมีทุ่นสำหรับผูกเรือสีเหลือง จึงทราบว่าบริเวณดังกล่าวคือบริเวณหินแพ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรจริง และคณะเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า เรือลำดังกล่าวจอดเทียบท่าอยู่ในคลองท่าตะเภา ปากน้ำชุมพรเก่า ติดกับบริษัท ทัวร์เอ็มไดฟ์วิ่ง คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิด โดยร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ในอุทยานแห่งชาติ และนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 (3) ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใด นำสัตว์ออกไป หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ และ มาตรา 16 (15) ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติตามเงื่อนไขซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาตนั้นกำหนดไว้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 เวลา 14.43 น.ที่บริเวณหลักหินแพ ท้องที่หมู่ที่ 2 ต.ปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร พิกัด 47 P 546275 E.UTM 1160644 N.(WGS 84) ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร

นายศิลป์ชัย กล่าวว่า หลังการนำเจ้าหน้าที่นั่งเรือออกไปตรวจสอบจนได้หลักฐานแน่ชัด ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อุทัยพันธ์ แสงโทโพธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่ร่วมกันกระทำความผิดทั้งสองคน ในคดีอาญาที่ 159/61 และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว และได้รายงานให้จังหวัดชุมพรทราบแล้ว

(ขอบคุณข้อมูล ภาพนิ่ง และคลิปจากเฟซบุ๊ก Tep Keerati)

พงศกร นวนละมัย รายงาน / ชุมพร

มอบเงินการกุศล 1,060,000 บาท

วันที่ 27 มีนาคม 2561 เวลา 10.00น. พลตรีกลชัย สุวรรณบูรณ์ ประธานจักหารายได้เพื่อมอบแก่กองทุนพัฒนาโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  จากการจัดกิจกรรมการแข่งขันมวยการกุศล มวย Thai Fight ซึ่งเป็นการแข่งขันมวยไทยชก 3 ยก  มวยระดับชาติที่มีผู้เข้าชมกันเป็นจำนวนมาก ในงานวันที่ 16 มีนาคม 2561 ในบริเวณงานเปิดโลกทะเลชุมพร  รวมยอดเงินการกุศลที่จะมอบให้ แก่กองทุนพัฒนาโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ โดยผ่าน นายแพทย์ฉัตรชัย ศรีนามวงศ์ ผอ.โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  จำนวน 1,060,000 บาท ณ ห้องพุดพิชญา โรงแรมนานาบุรี จังหวัดชุมพร โดยมีทีมสื่อมวลชนชุมพร มาเป็นสักขีพยาน ในการมอบเงินการกุศล 1,060,000 บาท ในครั้งนี้

   พลตรีกลชัย สุวรรณบูรณ์ เผย การปฎิบัตหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ชุด ป.ป.ส.มีเหตุให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงจัดหาเสื้อกันกระสุนมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฎิบัตงาน  จำนวน 24 ชุด โดยมอบผ่านทาง พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี      รองผู้บังคับการตำรวจจังหวัดชุมพร เพื่อใช้ในการปฏิบัตหน้าที่ อย่างปลอดภัย และเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฎิบัตงานต่อไป ในพื้นที่จังหวัดชุมพร

ชาวสวนปาล์มชุมพรยื่นหนังสือถึง “บิ๊กตู่” ร้องแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำต่อเนื่อง ล่าสุดเหลือกิโลละ 2.60 บาท

เวลา 10.00 น.(วันที่ 27 ม.ค.61) ณ ศาลากลางจังหวัดชุมพร ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพรกว่า 200 คน นำหนังสือชี้แจงความทุกข์ของชาวสวนปาล์มยื่นผ่านจังหวัดชุมพร ซึ่งมีนายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ นายกอบต.ท่าข้ามเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจ.ชุมพร เป็นตัวแทนมอบเอกสารให้กับ นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เพื่อนำส่งต่อถึงนายกประยุทธ์  เพื่อขอความช่วยเหลือและเรียกร้องเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันปาล์ม โดยในหนังสือระบุถึงความเดือดร้อนจากราคาปาล์มที่ต่ำอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน

ด้วยเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดชุมพร จำนวนกว่า 4,500 ครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูก 848,945 ไร่ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ซึ่งปัจจุบันจุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน ณ จุดรวบรวม (ลานเท) ได้รับซื้อปาล์มน้ำมัน (ปาล์มทะลาย) ในราคากิโลกรัมละ 2.60 บาท เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่ต่ำกว่าทุนการผลิต (3.20) ในขณะที่สินค้าที่เป็นต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ย ยา และรวมสินค้าอุปโภคบริโภคได้มีการปรับราคาสินค้าสูงขึ้น รายได้ที่ได้รับจากการปลูกปาล์มซึ่งเป็นอาชีพหลักไม่พอกับค่าใช่จ่าย ทำให้เกษตรกรไม่สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข

ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยไม่มีการประกันราคาปาล์มน้ำมัน (ทะลาย) ในช่วงระยะสั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนที่กิโลกรัมละ 4 บาท จึงจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนพอดำรงชีพในปัจจุบันได้ และในระยะยาวต้องการให้รัฐบาลได้ประกันราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่กิโลกรัมละ 6-7 บาท โดยออกกฎหมายให้มีการควบคุมในทุกขั้นตอน ทั้งในขั้นตอนการผลิต การจำหน่าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งเพื่อการบริโภคและการผลิตเป็นพลังงานทดแทน โดยขอให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน

นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ทางกรมการค้าภายในกำลังพิจารณาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอยู่ ส่วนหนึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ ลงนามร่วมกับหลายๆจังหวัดที่จ.สุราษฎร์ธานีไปแล้วเพื่อพี่น้องประชาชนชาวสวนปาล์มเองที่ได้รับความเดือดร้อน

ส่วนทางจังหวัดเองก็พยายามดูในเรื่องของโรงงานต่างๆให้เขาช่วยรับซื้อเพื่อเป็นการยกระดับราคาได้อีกระดับหนึ่ง

ด้านนายกฤษฏ์ แก้วรักษ์ นายกอบต.ท่าข้าม เครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร ได้กล่าวว่า ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะราคาปาล์มน้ำมันในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมาซึ่งช่วงนี้ตกสุด เกษตรกรอยู่ไม่ได้แล้วเพราะในเรื่องของราคาปุ๋ย การจัดการ วันนี้ปาล์มหนึ่งทะลายซื้อไข่ไก่ได้ 2 ฟองหรือ 2 ฟองครึ่ง วันนี้ มาเพื่อที่จะยื่นหนังสือให้กับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เพื่อที่ท่านเองจะเอาเอกสารส่งต่อให้กับทางรัฐบาลได้เข้ามาเยียวยาแก้ไขราคาพืชผลทางการเกษตรให้กับพี่น้องประชาชน

            ด้านนายนพพร อุสิทธิ์ สจ.เขตอำเภอสวี เป็นเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจังหวัดชุมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกระบวนการในการแปรรูปปาล์มน้ำมันบรรจุขวดขายปลีกราคาขวดละ 50-55 บาท โรงงานซื้อปาล์มกิโลละ 2.70 บาท ต้นทุนน้ำมันพืชอยู่ที่ 26 บาท แต่ขายให้กับเกษตรกรเองในราคา 50 บาท ซึ่งโรงงานได้กำไรเกิน 90% ในขณะที่เกษตรกรขายปาล์มขาดทุน ถามว่าเกษตรกรจะอยู่ได้อย่างไร วันนี้ชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆได้นำเอาปัญหาเหล่านี้เพื่อส่งไปถึงท่านนายกรัฐมนตรีให้ท่านช่วยกำกับดูแลกระบวนการตั้งแต่การปลูก การขาย เพื่อช่วยเฉลี่ยกำไรของแต่ละกระบวนการให้กลับมาถึงมือพี่น้องเกษตรกรด้วย