ทิป บ๊อก ยุค 4.0

ทิป บ๊อก ยุค 4.0
ทิป บ๊อก ยุค 4.0

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2561

จัดอบรมคณะครู นักเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา ตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้


จัดอบรมคณะครู  นักเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา ตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้


     วันที่ 29 เมษายน 2561 เวลา 13.00 น ผศ.นงลักษณ์สันติวณิชย์ รองคณบดีคณะศึกษาสาสตร์ สถาบันพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร มาเป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาการจัดกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กนักเรียน และ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึษา ตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้  และได้กล่าวถึงภารกิจที่สำคัญของสถาบันอุดมศึกษา ที่ได้มีการบูรรา และเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบในการพัฒนาการศึกษาของชาติในระดับท้องถิ่น โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันการพลศึกษากระทรวงการทิองเที่ยวลีฬา และสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานชุมพร เขต 1,เขต2 และระนอง กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อการดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาการจัดกิจกรรมทางกายสำหรับนักเรียน และครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษาด้วยการพัฒนาครูผู้สอนพลศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะที่จำเป็นในวิชาชีพ จึงเป็นความยินดี และความภาคภูมิใจที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร ได้รับหน้าที่อันเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการจัดอบรมในครั้งนี้  และยังถือได้ว่าเป็นการยกระดับคุณภาพครู ทั้งระบบส่วนหนึ่ง  และขอขอบคุณฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสถานที่ ขอบคุณวิทยากร และผู้เข้าอบรม ที่ให้ความสนใจกระตือรือร้นพัฒนาความรู้อันเป็นเป้าหมายสำคัญทำให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ไปด้วยดี






     อาจารย์ศิวะ พลนิล ประธานสาขาวิชาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ กล่าว ความเป็นมาของการดำเนินการโครงการส่งเสริมและพัฒนาการจัดกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กนักเรียน และ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึษา ตามนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้  ตามนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนแนวทางการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นระบบ นโยบาย คือ การปรับลดเวลาเรียนของเด็ให้น้อยลง  เป็นการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกาขั้นพื้นฐานพิจารณาปรับลดชั่วโมงเรียนของบางวิชาให้น้อยลง แต่ต้องไม่กระทบเนื้อหาหลักที่เด็กๆ ควรเรียนรู้ ครูต้องใช้ความสามารถในการอธิบายและบูรณาการให้ครบถ้วนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และกำหนดให้สถาบันศึกาต้องจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ให้ผู้เรียนอย่างหลากหลาย เพื่อเพิ่มพูนทักษะการคิดวิเคราะห์ความมีน้ำใจต่อกัน การทำงานเป็นทีม กระตุ้นให้ผู้เรียนได้ค้นหาศักยภาพและความสามารถของตนเอง เพื่อให้นักเรียนมีความสุขในการเรียน  การจัดกิจกรรม หลังเสร็จกิจกกรมการเรียน ในห้องเรียนของเด็ก ตามนโยบายดังกล่าว ได้เน้นให้เกิดกราพัฒนาผู้เรียน สร้างการเรียนรู้ เสริมคุณลักษณะพึงประสงค์ และเพิ่มทักษะชีวิต  ในการฝึกอบรมครั้งนี้ มีครูพลเข้าร่วมอบรมทั้งสิน 102 คน โดนจัดอบรมขึ้นระหว่างวันที่ 29เมษายน 2561 -วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 รวม 3 วัน โดยจัดอบรมภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติ บังคับ และเลือกรวมกิจกรรมกีฬาการออกกำลังกาย และนันทนาการรวม 15 ชนิด



ภาพ-ข่าว ธนากร โกศลเมธี 

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561

ครบรอบ 23 ปี “วัดดอนรวบจัดยิ่งใหญ่” งานประเพณีไทยทรงดำ ประจำปี 2561


ครบรอบ 23 ปี “วัดดอนรวบจัดยิ่งใหญ่” งานประเพณีไทยทรงดำ ประจำปี 2561

เวลา 20.00 น.(วันที่ 27 เมษายน 2561) ได้รับเกียรติจากท่านชัยสิทธ์ พานิชพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรมาเป็นประธานพิธีเปิดงานประจำปีประเพณีไทยทรงดำ ณ วัดดอนรวบ หมู่ที่ 8 ตำบลบางหมาก อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร วัดดอนรวบได้จัดงานประจำปีสืบทอดกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 23 ปี และยังกล่าวชมเชยชาวบ้านไทยทรงดำมีจิตใจเอื้อเฟื้อ รักพวกพ้อง รักสนุก เมื่อยามว่างจากงานก็จะมีการละเล่นสนุกๆ แอ่วสาว เป่าแคน และฟ้อนรำ โดยเฉพาะการแต่งกายด้วยชุดดำล้วน อันเป็นการแสดงสัญลักษณ์นับเป็นสิ่งที่แปลกสำหรับผู้ที่ไม่เคยพบเห็น แต่เป็นการแปลกที่แฝงเอาไว้ด้วยคุณค่า น่าจะได้รับการดูแลเอาใจใส่สืบทอดไปสู่บุตรหลาน และเผยแพร่ไปสู่สังคมภายนอก พี่น้องชาวไทยทรงดำมีความตั้งใจที่จะอนุรักษ์วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมอันดีงามของตนไว้  เพื่อเป็นการสืบทอดมรดก ไปสู่ลูกหลาน และฝากไว้ให้เป็นสมบัติของชาติสืบไป





            กำนันณัฐ ธนภัทร กล่าวว่า วัดดอนรวบได้จัดงานประจำปีสืบทอดกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 23 ปี เพื่อปิดทองหลวงปู่จอน หลวงปู่ต่าง เจ้าอาวาสวัดดอนรวบ สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของหมู่บ้านดอนรวบ และจัดหารายได้บูรณปฏิสังขรณ์ วัดดอนรวบให้เป็นแบบอย่างที่ดี แก่ชนรุ่นหลังสืบทอดต่อไป และยังทำให้พี่น้องประชาชนในชุมชนบ้านดอนรวบ และบริเวณใกล้เคียงได้รับความสนุกสนาน รื่นเริง รักสามัคคี จะได้เป็นบุญกุศลแก่ผู้ที่มาร่วมงาน และขอขอบคุณคณะกรรมการจัดงาน พระครูอาทรประชารักษ์ เจ้าอาวาสวัดดอนรวบ  ท่านกรรภิรมย์ กุยุคำ นายกเทศมนตรีตำบลบางหมาก ท่านนริศ นพชำนาญ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักด์วัดดอนรวบ ท่านยืนยงค์ ดีสมุทร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดดอนรวบ ผู้ใหญ่วรรลพ เทวบิน  และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลบางหมากทุกคน และผู้ที่ให้การสนับสนุนทุกท่าน





นายกรรภิรมย์ กุยุคำ นายกเทศมนตรีตำบลบางหมาก กล่าวถึงความเป็นมาของยุคสมัยที่ไทยทรงดำ ได้มาสู่ถิ่นฐานของประเทศไทย และการกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ รวมถึงจังหวัดชุมพร โดยสังเขป ลาวโซ่งหรือไทยทรงดำ คือ กลุ่มชาวไทยโบราณกลุ่มหนึ่งที่อพยพเข้าสู่ประเทศไทยด้วยเหตุทางการเมือง การปกครอง มาเป็นเวลา 200 ปี การอพยพของชาวไทยทรงดำแบ่งออกเป็น 2 ยุค คือ ยุคแรกในสมัยกรุงธนบุรี ยุคที่ 2 ในสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3 )แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และชาวไทยทรงดำที่อพยพเข้ามาสู่จังหวัดชุมพร ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 9 ตำบลบางหมาก หมู่ที่ 9 ตำบลท่ายาง หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งคา และหมู่บ้านใกล้เคียง สำหรับหมู่บ้านดอนรวบชาวไทยทรงดำมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงร่วมกันสร้างวัดขึ้นเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยทรงดำ และมีโรงเรียนเป็นสถานศึกษาที่ให้การศึกษาแก่กุลบุตร กุลธิดาในเขตพื้นที่ตลอดมา เอกลักษณ์ของไทยทรงดำ คือ ทางด้านภาษา การแต่งกาย  ประเพณีเสนเรือ  เพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ  งานประเพณีไทยทรงดำประจำปี 2561 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2561 กิจกรรมภายในงานจัดให้มีประเพณีไทยทรงดำ การปิดทองหลวงปู่จอน หลวงปู่ต่าง และทอดผ้าป่าสามัคคี มีมรหสพ สมโภชน์ ตลอดงาน












ภาพ-ข่าว อิ๊ด ดาวใต้

ระดมทีมนักประดาน้ำค้นหาผู้เสียชีวิตในแม่หลังสวน 2 วันไม่พบ จนศพลอยเกยฝั่ง


ระดมทีมนักประดาน้ำค้นหาผู้เสียชีวิตในแม่หลังสวน 2 วันไม่พบ จนศพลอยเกยฝั่ง






วันนี้(27 เม.ย.2561) ศูนย์วิทยุกู้ภัยสมาคมพุทธประทีป อ.หลังสวน ได้รับแจ้งว่า มีผู้พบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำอยู่ริมตลิ่งในแม่น้ำหลังสวน จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบร่างผู้เสียชีวิตลอยคว่ำหน้าอยู่ริมตลิ่ง สวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีดำ เมื่อสอบถามผู้เห็นเหตการณ์ทราบว่า ญาติๆ จำได้ว่าเป็นนายเชียร เพชรแดงที่สูญหายไป หน่วยกู้ภัยพุทธประทีปหลังสวนจึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตมอบให้แก่โรงพยาบาลปากน้ำหลังสวนและสถานีตำรวจภูธรปากน้ำหลังสวน ตรวจสอบสาเหตุในการเสียชีวิต
  ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23. เม.ย 61. เวลา 11.30น ได้รับแจ้งจากญาติว่า นาย เชียร. เพชรแดง อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13. ม.6. ต.ปากน้ำ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นคนหลงๆลืมๆ  แขนขาอ่อนแรง เดินได้นิดหน่อย ได้สูญหายไป ตั้งแต่ช่วงเช้า ของวันที่ 23 เมษายน 2561 ทางญาติได้ออกตามหาบริเวณใกล้เคียงแต่ไม่พบตัว พบเพียงรองเท้าซึ่งเป็นของบุคคลที่สูญหายตกอยู่ริมแม่น้ำที่เป็นตลิ่งสูงชัน โดยในขณะนั้นทางญาติสงสัยว่า นายเชียรอาจเดินมาใกล้เคียงบริเวณดังกล่าว และอาจเกิดอุบัติเหตุลื่นไถลพลัดตกลงไปในแม่น้ำหลังสวน
  ต่อมาทีมประดาน้ำพุทธประทีปหลังสวนจึงได้ทำการค้นหาใต้น้ำ พร้อมกับแจ้งขอรับการสนับสนุนจากชุดประดาน้ำกู้ภัยสายชลชุมพร และชุดกู้ภัยทางน้ำ อบต.สะพลี พร้อมอุปกรณ์ค้นหาทางน้ำ โดยได้ทำการค้นหาอยู่หลายชั่วโมง แต่เนื่องจากทัศนวิสัยใต้น้ำไม่ชัดเจน อีกทั้งยังมีบริเวณค่อนข้างกว้าง เป็นอุปสรรคในการค้นหาเป็นอย่างยิ่ง จนต้องยุติการค้นหาในเวลา 19.00 น.  และต่อมาในวันที่ 24 เม.ย.2561 ก็ได้นำเรือเร็วกู้ภัยตรวจสอบผิวน้ำบริเวณใกล้เคียง รวมทั้ง ลงทำการค้นหาใต้น้ำในบริเวณใกล้เคียงจุดที่พบรองเท้าของผู้สูญหาย จนกระทั่งเวลา 17.30 น.  ก็ยังไม่พบเจอผู้สูญหาย ทางทีมประดาน้ำพุทธประทีป หลังสวนจึงยุติการค้นหา ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยพุทธประทีปหลังสวน และทีมประดาน้ำกู้ภัยหลังสวนขอขอบคุณ ทีมประดาน้ำ กู้ภัยสายชลชุมพร  ทีมกู้ภัยทางน้ำ. อบต.สะพลี วางแผนจะการร่วมค้นหาต่อไป ควบคู่กับ ทีมกู้ภัยเขาทะลุ บางมะพร้าว ที่จะร่วมกันค้นหาทางภาคพื้นดิน แต่ศพผู้เสียชีวิตก็ลอยขึ้นฝั่งเองในที่สุด

ขอบคุณภาพ/ข่าว กู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน และทีมกู้ภัยทางน้ำ. อบต.สะพลี


ภาพ/ข่าว พงศกร นวนละมัย ผู้สื่อข่าวจ.ชุมพร





ภาพ-ข่าว 

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2561

ชุมพร- 250461-ตร.ตาไว ไล่กวดแก็งค์ลักรถพัทยาส่งใต้ ทิ้งรถหนี


ชุมพร- 250461-ตร.ตาไว ไล่กวดแก็งค์ลักรถพัทยาส่งใต้ ทิ้งรถหนี

     เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 25 เม.ย.61 พ.ต.อ.นิรันดร์ กันจู  ผกก. สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งจาก ร.ต.อ.ธนะ เนตรใจบุญ รอง สว.สส. ว่า กำลังไล่ล่า รถยนต์กระบะ ที่มีทะเบียนตรงกับที่รับแจ้ง จาก ศูนย์ป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถฯ (ศป.จร.)  จึงพร้อม พ.ต.ท.พิจิตร โยธินวัชระชัย รอง ผกก.สส., พ.ต.ต.ชาติชาย  มูลลักษณ์ สว.สส., พ.ต.ต. ระนอง ชุมพินิจ พงส. นำกำลังเพื่อสกัดการหลบหนี ริม ถนนเอเซีย41
     ต่อมา ได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่า พบรถกระบะ ที่คนร้ายซิ่งหลบหนีแล้ว ที่ ริมถนนเอเชีย 41 ช่องทางขาขึ้น กทม. หมู่ที่5 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ห่างจาก สี่แยกหลังสวน1กม. เป็นรถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อฟอร์ด แรงเจอร์ สีแดง ทะเบียบ 2 กช.3465 กทม. สภาพใหม่เอี่ยม รถคันดังกล่าวจอดลึกลงไปในถนนซอยหน้าบ้านของชาวบ้าน ทำเหมือนรถจอดปกติ ตรวจสอบพบน้ำมันรถหมดไม่สามารถสตาร์ทได้ เบื้องต้นพบว่าเป็นรถที่ได้รับการแจ้งหาย ในท้องที่ สภ.พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 6 เม.ย.61 ที่ผ่านมา  ร.ต.อ.ธนะ เนตรใจบุญ เล่าว่า ในขณะที่ตนพร้อมด้วย ดต.กำพล เขียวคำ ตำรวจสายสืบ สภ.หลังสวน กำลังขับรถกลับจากการไปสืบสวนหาข่าว ในพื้นที่ อ.ละแม จ.ชุมพร รอยต่อ จ.สุราษฏร์ธานี  บนถนนเอเซีย41 ช่องทางขาขึ้น กทม. สังเกตเห็นรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ขับด้วยความเร็วสูง เมื่อสังเกตป้ายทะเบียนและ ตรวจสอบกับเครือข่าย ของ ศป.จร.ผ่านทางอินเตอร์เนทมือถือ พบว่า เป็นรถที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.พัทยา จึงขับติดตามและ แจ้งไปยัง พ.ต.อ.นิรันดร์ กันจู ผกก. สภ.หลังสวนเพื่อขอกำลังเสริม  ปรากฏว่า คนร้ายที่เป็นคนขับรถ ซึ่งขับมาเพียงคนเดียว คงจะรู้ตัวว่าโดนติดตาม จึงเร่งความเร็วหลบหนี ใช้ความเร็วสูง ถึง 200 กม./ชม.  ทำให้รถของตนเองติดตามไม่ทัน จนรถคนร้ายหายไปจากสายตา หลังจากประสานงาน กับ ผกก.ทราบว่ามีการตั้งด่านในเส้นทางที่รถจะผ่าน จึงขับต่อมา เมื่อใกล้จะถึง สี่แยกเข้า อ.หลังสวน สังเกตเห็น รถกระบะสีแดงเห็นไกลๆ คล้ายกับรถที่ไล่ติดตาม เมื่อเข้าไปดูพบว่าใช่รถคันเดียวกัน แต่ไม่พบคนร้ายที่ขับรถแล้ว คาดว่าเมื่อรถหมดน้ำมัน คนร้ายคงหาที่จอดห่างจาก ถนนเล็กน้อยหน้าบ้านชาวบ้าน  คิดว่าถ้าตำรวจมองไม่เห็นจะได้ไปซื้อน้ำมันมาใส่แล้วหลบหนีต่อไป แต่ ตำรวจตาไวกว่า จึงสามารถยึดรถได้ ทำให้คนร้ายเตลิดหนีต่อไป


     จากการตรวจสอบเอกสาร เจ้าของรถที่แจ้งความหายไว้  ทราบว่า เจ้าของรถชื่อ นางสาวปราณี สุวรรณลิขิต อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 27/139 หมู่ที่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้แจ้งว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย.จอดรถไว้ที่ ตลาดนัดเคหะเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ ชลบุรี เวลา 15.00 น. ต่อมา ในเวลา 23.00 น.วันเดียวกัน พบว่ารถหายไปแล้วจึงไปแจ้งความ  ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นแก็งค์ลักรถยนต์ ขายข้ามภาค โดยเฉพาะรถยนต์กระบะสภาพใหม่ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนร้ายในภาคใต้ ที่จะนำไปใช้ในการก่อคดีต่างๆในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งขนยาเสพติด มือปืนรับจ้าง และเหตุร้ายต่างๆ คนร้ายน่าจะกำลังขับรถไปส่งให้กับแก็งค์รับซื้อในพื้นที่ รอยต่อ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฏร์ธานี แต่โชคดี ที่ ตำรวจ สายสืบ สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ตาไว อีกทั้ง เป็นนายตำรวจที่มีความไฮเทค ใช้อินเตอร์เนทในการทำงานตลอดเวลา จึงสามารถตรวจสอบข้อมูล และ มีทีมงานนำโดย พ.ต.อ.นิรันดร์ กันจู ผกก. สภ.หลังสวน ที่มีความตื่นตัว เข้มแข็งในการปฏิบัติงาน จึงสกัดรถที่ถูกลักมาได้


ภาพ-ข่าว นิด ดาวใต้ 

เก๋งชนท้ายรถจักรยานยนต์สองผัวเมียตายข้างทาง


เก๋งชนท้ายรถจักรยานยนต์สองผัวเมียตายข้างทาง



      25 เม.ย. 61 เวลา21.30น. ร.ต.อ.ธีรพงศ์ เตชะนันท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง ลพบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.โคกสำโรงว่าได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ ถนนพลโยธิน 1 สายลพบุรี-โคกสำโรง หลักกิโลเมตรที่ 186-487 หมู่ที่ 1 ต.วังขอนขว้าง อ.โคกสำโรง ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 ราย จึงได้เดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุพร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวรฉุกเฉิน รพ.โคกสำโรง สมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์ รุดเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ

     ที่เกิดเหตุเป็นถนนสี่เลน พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน ชฉล-614 ลพบุรี ตกอยู่ข้างทางในสภาพพังยับเยิน ใกล้กันรถจักรยานยนต์พบร่างนายสุนทร ขำศรี อายุ 36 ปี และนางสมบัติ ขำศรี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ที่ 3 ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง ลพบุรี สามีภรรยา ในสภาพได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์และพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น แต่เนื่องจากทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

     จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบว่ารถจักรยานยนต์ มีร่องรอยการชนจากรถยนต์อย่างรุนแรง แต่ไม่พบรถคู่กรณี ซึ่งคาดว่าจะหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วิทยุขอกำลังสนับสนุนตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อสกัดจับรถต้องสงสัยที่หลบหนี ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์-เงินหมายเลขทะเบียน กท-5260 ลพบุรี ในสภาพด้านหน้ามีร่องรอยการชน กระจกแตกร้าว ได้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงนำรถไปไว้ที่ สภ.โคกสำโรง และตามเจ้าของรถที่ชนแล้วหลบหนีเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนศพผู้เสียชีวิตทั้งสองรายได้นำส่ง รพ.โคกสำโรงเพื่อพิสูจน์สาเหตุอีกครั้งก่อนที่จะประสานญาตินำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
ภาพ-ข่าว มงคล รหัส 052

ปฏิบัติการขุดทลายคันดินในพื้นที่ตรวจยึด


ปฏิบัติการขุดทลายคันดินในพื้นที่ตรวจยึด 



     เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 เม.ย.นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร ร่วมปฎิบัติการขุดทลายคันดินในพื้นที่ตรวจยึดบริเวณท้องที่บ้านบางเจริญ หมู่ที่2 ต.ท่ายาง อ.เมืองชุมพร โดยมี นายปรีชา วนชุติกุล เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายฝั่งและชายเลน สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5   ป่าไม้จ.ชุมพร กอ.รมน.ชุมพร ตำรวจสภ.ปากน้ำ ปกครองท้องถิ่น รวมกว่า 100 นาย พร้อมเครื่องจักรกลใหญ่เข้าพื้นที่ 
      นายปรีชา วนชุติกุล เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส
ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายฝั่งและชายเลน สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 กล่าวว่าการปฎิบัติการถอดถอนทลายคันดินในพื้นที่ทวงคืนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเลน อ่าวทุ่งคา และ ป่าอ่าวสวี ต.ท่ายาง อ.เมืองชุมพรนั้น ก่อนหน้านี้ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ตรวจยึดจับกุมไว้แล้วเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ตามนโยบายของรัฐบาล คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. รวมเนื้อที่ทั้งหมดที่ตรวจยึดดำเนินคดี 310 ไร่ เพื่อนำพื้นที่ ที่ยึดคืนมาปลูกป่าฟื้นฟูให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ในลำดับต่อไป



ภาพ-ข่าว นิด ดาวใต้ 

ชุมพร - การประชาสัมพันธ์และประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 พื้นที่ชายฝั่งบริเวณวัดถ้ำโพงพาง ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร

 ชุมพร - การประชาสัมพันธ์และประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 พื้นที่ชายฝั่งบริเวณวัดถ้ำโพงพาง ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร  ...