ประธานอนุ กมธ. จ่อเชิญหน่วยงานรัฐแจงเหตุผลนำเข้ามะพร้าวนอก 7.2 ตันไม่เสียภาษีตามกรอบเสรีอาเซียน
วันที่ 30 กันยายน นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ประธานอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคามะพร้าว สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากมติของอนุกรรมการบริหารจัดการสินค้ามะพร้าว ให้นำเข้ามะพร้าวนอกได้ในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2562 ปริมาณ 72,280 ตัน ในกรอบการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA แต่ก่อนนำเข้าจะต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ขณะที่การประชุมอนุกรรมาธิการสัปดาห์นี้จะเชิญผู้เกี่ยวข้องสอบถามข้อเท็จจริงเหตุผลความจำเป็น โดยเฉพาะผลผลิตภายในประเทศมีเพียงพอหรือไม่อย่างไร
“ เนื่องจากการประกาศนำเข้ามะพร้าวนอกในปริมาณมาก แม้ว่าโรงานอุตสาหกรรมอาจจะเข้าจริงน้อยกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ และมะพร้าวในกรอบAFTA ไม่อนุญาตให้นำไปกะเทาะนอกโรงงาน แต่การนำเข้าจะมีผลกระทบกับปัจจัยทางการตลาดในการซื้อขายมะพร้าวในประเทศอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ผลละ 13 – 15 บาท ดังนั้นทุกฝ่ายต้องเร่งหามาตรการเพื่อไม่ให้มะพร้าวในประเทศราคาต่ำกว่าผลละ 10 บาท ” นายประมวล กล่าว
นายกิตติวงศ์ แสงสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว อ.ทับสะแก กล่าวว่า การนำเข้า72,280 ตัน ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยต่อเดือนในปี 2560 ที่มีการนำเข้าโดยรวมกว่า 4 แสนตัน ขณะที่ราคามะพร้าวที่หน้าสวนเพิ่งขยับขึ้น ไม่เกินผลละ 18 บาท ปัญหานี้ไม่ได้มาจากผลผลิตในประเทศไม่เพียงพอ แต่มาจากการปั่นราคาของโรงงานอุตสาหกรรมกะทิ พยายามทำให้มีความรู้สึกว่ามะพร้าวไม่พอผลิต โรงงานจึงต้องการนำเข้ามะพร้าวราคาถูก ไม่ต้องเสียภาษีในกรอบ AFTA ทั้งที่ช่วงปลายปี 2562 จะมีผลผลิตมะพร้าวในประเทศกว่า 1.3 แสนตัน รองรับภาคอุตสาหกรรม
“ ในภาพรวมจะเห็นได้ว่าการนำเข้ามะพร้าวใน 2561 น้อยกว่าปี 2560 ถึง 207,207 ตัน หรือลดลง50% แต่พบว่ากะทิที่ส่งออกในปี 2561 มีมากกว่า 26,274 ตัน เมื่อเปรียบเทียบจะเห็นว่าปริมาณกะทิส่งออกปี 2562 ไม่ต่างจากปี 2561 แม้ว่าปริมาณการนำเข้าน้อยลง แสดงว่าโรงงานมีการใช้มะพร้าวภายในประเทศมากขึ้น แต่ทำไมราคาจึงไม่ดีขึ้น ดังนั้นสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ควรให้ความสนใจว่าต้นทุนที่แท้จริงเป็นอย่างไร ขณะที่ตัวเลขการใช้มะพร้าวยืนยันชัดเจนว่าวัตถุดิบในประเทศมีเพียงพอ ” นายกิตติวงศ์ กล่าว///
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวประจวบคีรีขันธ์โทร0993396444
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น